02-019-7296 | 081-595-3011 | 095-748-7312

“ต้นไม้ฟอกอากาศ” ช่วยลดมลพิษทางอากาศภายในอาคารได้จริงไหม ?

“ต้นไม้ฟอกอากาศ” ช่วยลดมลพิษทางอากาศภายในอาคารได้จริงไหม ?

มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาใหญ่ในยุคสมัยนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มลพิษฝุ่น PM 2.5 แพร่กระจายไปทั่วประเทศไทย ซึ่งเป็นมลภาวะทางอากาศที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์ จนทำให้เครื่องฟอกอากาศกลายเป็นอีกหนึ่งในอุปกรณ์จำเป็นสำหรับเรา เพื่อเป็นตัวช่วยในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศภายในอาคารและปรับปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ดียิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากและถูกแนะนำกันอย่างแพร่หลายคือการใช้ “ต้นไม้ฟอกอากาศ” ที่หลายคนเชื่อว่าต้นไม้จะช่วยดูดซับสารพิษภายในอาคาร และปล่อยออกซิเจนให้เราหายใจ เพื่อช่วยให้อากาศภายในอาคารบริสุทธิ์และสดชื่นขึ้น แต่จะจริงแค่ไหน ? ที่ต้นไม้ฟอกอากาศจะสามารถลดมลพิษทางอากาศภายในอาคารได้ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจแและค้นหาคำตอบ พร้อมแนะนำการดูแลคุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality  : IAQ ) เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดกัน 

 

มลพิษทางอากาศที่พบบ่อยในอาคาร

มลพิษทางอากาศที่พบบ่อยในอาคาร

ก่อนอื่นเรามารู้จักกับ มลพิษทางอากาศภายในอาคาร หรือ Indoor Air Pollution คือ สภาวะอากาศภายในอาคารหรือสถานที่ปิดที่มีสิ่งเจือปนหรือสารปนเปื้อนต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde), สารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) หรือฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5 / PM10) เป็นต้น ซึ่งมลพิษทางอากาศเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้คุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality : IAQ) ต่ำกว่าระดับมาตรฐาน จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยหรือผู้ใช้งานอาคารในพื้นที่นั้น ๆ 

โดยสาเหตุของมลพิษทางอากาศภายในอาคารสามารถเกิดขึ้นได้จากแหล่งต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกอาคาร เช่น วัสดุก่อสร้างหรืออุปกรณ์ภายในอาคารที่มีการใช้สารเคมี สถานที่ตั้งของอาคารที่เสี่ยงสูงต่อมลพิษทางอากาศ ระบบปรับอากาศและระบบระบายอากาศที่ไม่เพียงพอ หรือแม้กระทั่งเกิดจากผู้ใช้งานอาคารเองก็มีส่วนในการสร้างมลพิษทางอากาศเช่นเดียวกัน เช่น การสูบบุหรี่ หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีบางชนิด อย่างน้ำหอม หรือโคโลญจน์ เป็นต้น

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “มลพิษทางอากาศภายในอาคาร” ได้ที่บทความ : 

INDOOR AIR POLLUTION มลพิษทางอากาศภายในอาคาร ร้ายแรงกว่าที่คิด !

และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้การดูแลคุณภาพอากาศภายในอาคารเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจและดูแลเป็นพิเศษ เพื่ออากาศในการหายใจที่บริสุทธิ์และไม่มีสิ่งเจือปน จึงทำให้ “ต้นไม้ฟอกอากาศ” กลายเป็นส่วนหนึ่งที่คนยุคใหม่ให้ความสนใจ เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคารให้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

เนื้อหาที่น่าสนใจ : 

 

ต้นไม้ฟอกอากาศคืออะไร

ต้นไม้ฟอกอากาศ คือ พืชที่มีคุณสมบัติในการดักจับ ดูดซับสารพิษและมลพิษทางอากาศ ด้วยกระบวนการทั้ง 3 ช่องทาง นั่นคือ การดูดน้ำจากราก การดูดมลพิษในห้อง และการคายน้ำทางปากใบ โดยเฉพาะในส่วนของใบที่สามารถดักจับฝุ่นละอองที่อยู่ในอากาศให้มาติดค้างบริเวณผิวใบได้ ไม่เพียงเท่านี้ต้นไม้บางชนิดยังสามารถช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ และปล่อยก๊าซออกซิเจนออกมาทำให้เรารู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายมากขึ้น

โดยคุณสมบัติของต้นไม้ฟอกอากาศ คือสามารถดูดซับสารพิษที่ลอยอยู่ในอากาศผ่านทางใบ ลำต้น และราก และปล่อยออกซิเจนออกมาในระหว่างกระบวนการสังเคราะห์แสง อีกทั้งยังปล่อยความชื้นในอากาศผ่านทางการคายน้ำทำให้อากาศไม่แห้งและเหมาะต่อการหายใจ ไม่เพียงเท่านี้ยังให้ความสวยงามและสามารถใช้เพื่อตกแต่งให้สิ่งแวดล้อมน่าอยู่อีกด้วย

ซึ่งต้นไม้ฟอกอากาศมีหลากหลายประเภททั้งที่สามารถปลูกได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน เช่น

  • ต้นไม้ฟอกอากาศในอาคาร : เดหลี ลิ้นมังกร พลูด่าง ยางอินเดีย เฟิร์นบอสตัน เขียวหมื่นปี 
  • ต้นไม้ฟอกอากาศนอกอาคาร : หมากเหลือง วาสนาอธิษฐาน สัปปะสดรี โกสน จั๋ง เศรษฐีเรือนใน

 

กลไกการฟอกอากาศของต้นไม้

กลไกการฟอกอากาศของต้นไม้

  • การสังเคราะห์แสง : เริ่มต้นจากการที่พืชได้รับแสงจากดวงอาทิตย์หรือแสงไฟสังเคราะห์ จากนั้นจึงเกิดการสังเคราะห์แสงขึ้น จนทำให้ปากใบของพืชเปิดและคายน้ำออกมา ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศโดยรอบ จนทำให้สารพิษไหลยังบริเวณรากพืชซึ่งมีจุลินทรีย์อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งทำหน้าที่ในการย่อยสลายสารพิษที่มากับอากาศให้กลายเป็นอาหารของพืช ซึ่งกลไกลนี้เองจึงทำให้ต้นไม้ฟอกอากาศช่วยเปลี่ยนมลพิษทางอากาศให้เป็นอากาศบริสุทธิ์ได้นั่นเอง
  • การดูดซับสารพิษผ่านใบ : ต้นไม้จะใช้ปากใบที่มีรูขุมขนเล็ก ๆ ทำหน้าที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสง รวมถึงสารพิษต่าง ๆ ที่อยู่ในอากาศ เช่น ​ฟอร์มาลดีไฮด์ หรือสารระเหยอื่น ๆ ผ่านปากใบของต้นไม้ 
  • การกรองอากาศผ่านราก : รากพืชทำหน้าที่ในการดูดซับน้ำและสารอาหารจากดิน รวมถึงมีความสามารถในการดูดซับสารพิษที่ถูกลำเลียงจากใบหรือลำต้น และสารพิษบริเวณโดยรอบมาเปลี่ยนเป็นอาหารให้แก่ต้นไม้
  • การคายน้ำ : กระบวนการคายน้ำของต้นไม้ฟอกอากาศจะช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ ทำให้อากาศไม่แห้ง และยังช่วยลดอุณหภูมิในบริเวณโดยรอบทำให้เรารู้สึกเย็นสบายมากขึ้น
  • การปล่อยออกซิเจน : ผลพลอยได้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงคือการปล่อยก๊าซออกซิเจนออกมา ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ซึ่งทำให้คุณภาพอากาศภายในอาคารสดชื่นขึ้น

 

ต้นไม้ฟอกอากาศช่วยลดฝุ่นได้จริงไหม

ต้นไม้ฟอกอากาศช่วยลดฝุ่นได้จริงไหม

คำตอบสั้น ๆ คือ ต้นไม้ฟอกอากาศช่วยลดฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง “แต่” ไม่สามารถกำจัดฝุ่นได้ทั้งหมด โดยมีงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของต้นไม้ฟอกอากาศในการลดมลพิษทางอากาศต่าง ๆ รวมถึงฝุ่นละออง ได้ระบุไว้ว่าพืชมีศักยภาพในการลดความเข้มข้นของก๊าซและสารเคมีบางชนิดที่เป็นมลพิษทางอากาศภายในอาคาร เช่น สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) เบนซิน ไตรคลอโรเอทธิลีน ฟอร์มาลดีไฮด์ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือช่วยลดความเข้มข้นของปริมาณโอโซนในร่ม รวมถึงสารพิษอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงในบทความนี้อีกมากมาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของต้นไม้ ขนาดของต้นไม้ ปริมาณฝุ่นในอากาศ และขนาดของพื้นที่ในอาคาร่วมด้วยนั่นเอง 

เพราะฉะนั้นการปลูกต้นไม้ฟอกอากาศภายในอาคาร จึงสามารถช่วยลดมลพิษทางอากาศได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถฟอกอากาศภายในอาคารได้เท่ากับเครื่องฟอกอากาศทั่วไป อย่างแผ่นกรองอากาศ HEPA Filter เป็นต้น

ข้อมูลอ้างอิง : IQAir, จาก https://www.iqair.com/th-en/newsroom/plants-for-purifying-air-debunked

 

คำแนะนำในการดูแลคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ)

การดูแลคุณภาพอากาศภายในอาคาร หรือ Indoor Air Quality (IAQ) เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย โดยต่อไปนี้คือคำแนะนำในการดูแลคุณภาพอากาศภายในอาคารที่ควรปฏิบัติตามเพื่อให้อากาศภายในสะอาดและเหมาะแก่การหายใจกัน ดังนี้

  • ตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในอาคาร : การตรวจวัดปริมาณของฝุ่นละออง ก๊าซ อุณหภูมิ และความชื้นของอากาศที่อยู่ภายในอาคาร เพื่อหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขคุณภาพอากาศภายในอาคารให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 
  • ตรวจสอบการทำงานของระบบปรับอากาศ HVAC : การตรวจสอบระบบปรับอากาศและระบบระบายอากาศเพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานและการรักษาคุณภาพอากาศภายในอาคาร เช่น แผ่นกรองอากาศ (Air Filter) เป็นต้น
  • ใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีตัวกรอง HEPA : เลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับขนาดของห้อง และมีแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (HEPA Filter) ที่สามารถช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 และมลพิษทางอากาศในอากาศได้ดี 
  • รักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ : การดูแลรักษาความสะอาดภายในอาคาร โดยเฉพาะในบริเวณที่สะสมของฝุ่น เช่น พื้น พรม ผ้าม่าน หรือเฟอร์นิเจอร์ จะช่วยลดความเสี่ยงของการสะสมมลพิษทางอากาศภายในอาคารได้เป็นอย่างดี
  • หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่มีอันตราย : การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบธรรมชาติหรือสารเคมีที่ไม่เป็นอันตราย ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่มีสารระเหยสูง รวมถึงหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ภายในอาคาร เนื่องจากควันบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและทำให้คุณภาพอากาศแย่ลงนั่นเอง

 

Q&E INTERNATIONAL บริการตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ)

Q&E INTERNATIONAL ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality : IAQ) ที่มุ่งมั่นให้บริการที่มีคุณภาพสูงสุดแก่ลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่าอากาศภายในอาคารที่คุณใช้งานมีความสะอาด ปลอดภัย และปรับปรุงให้มีมาตรฐานที่ดีที่สุด เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยในอาคาร โดยมี 10 รายการสำคัญ สำหรับ IAQ : การตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในอาคาร ของเรา Q&E INTERNATIONAL โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ 

สามารถดูรายละเอียดของบริการทดสอบคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ) ได้ ที่นี่ ! 

 

ติดต่อเรา Q&E INTERNATIONAL ได้ที่ช่องทาง

Call: 095-748-7312, 081-595-3011

LINE ID: @248hrupy

Facebook: บริษัท คิว แอนด์ อี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 

Email: [email protected], [email protected]

Share :

ข่าวสารที่น่าสนใจ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า