ท่อลม (Duct) หรือที่เรียกว่าท่อดักท์ คือ ท่อที่ทำหน้าที่พาอากาศจ่ายไปยังพื้นที่ต่างๆ ภายในอาคารโดยสามารถควบคุมความเร็วลมและปริมาณอากาศให้กระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึงตามที่ออกแบบไว้ ซึ่งท่อดักท์ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญในระบบปรับอากาศและระบบระบายอากาศภายในอาคาร โดยมีท่อลมที่สำคัญอยู่ 4 ประเภท ได้แก่
- ท่อส่งลมเย็น (Supply Air Duct) : ท่อที่ทำหน้าที่นำอากาศจากคอยล์เย็นจ่ายไปยังส่วนต่าง ๆ ภายในอาคารตามแนวท่อที่วางไว้ เพื่อกระจายลมเย็นไปยังพื้นที่ต่างๆ อย่างทั่วถึง
- ท่อดึงลมกลับ (Return Air Duct) : ท่อที่ทำหน้าที่ดูดอากาศที่จ่ายออกไปด้วยท่อส่งลมเย็นกลับมาที่คอยล์เย็นเพื่อแลกเปลี่ยนความร้อนให้อุณหภูมิลดลง เพื่อนำกลับไปจ่ายด้วยท่อส่งลมเย็นเพื่อกระจายอากาศไปยังพื้นที่ต่าง ๆ อีกครั้ง
- ท่อระบายอากาศ (Exhaust Air Duct) : ท่อที่ทำหน้าที่ระบายอากาศหรือดูดอากาศเสียจากภายในอาคารออกไปทิ้งสู่ภายนอกอาคาร
- ท่อเติมอากาศ (Fresh Air Duct) : ท่อที่ทำหน้าที่เติมอากาศจากภายนอกเข้าสู่ภายในอาคาร เพื่อให้มีการระบายอากาศและการหมุนเวียนอากาศที่ถูกต้อง
เพราะท่อลมคือส่วนสำคัญที่ส่งลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ภายในอาคาร หากท่อลมเกิดรั่วย่อมส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบปรับอากาศ สุขภาพของผู้ใช้งานอาคาร ตลอดจนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสำหรับระบบปรับอากาศที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
หรือถ้าหากคุณคือวิศวกรผู้ออกแบบและก่อสร้างอาคารแล้วพบเจอกับปัญหาอย่างการติดตั้งท่อส่งลมหรือท่อดักท์แล้วระบบไม่สามารถบาลานซ์ลมได้ ลมไม่พอ หรือลมหายไปทั้ง ๆ ที่เลือกใช้พัดลมตามที่ออกแบบไว้ก็ตาม หนึ่งในสาเหตุนั้นอาจจะเกิดจากท่อลมรั่วก็เป็นไปได้
ดังนั้นการทดสอบรอยรั่วของท่อลม (Duct Leakage Test) จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับการทดสอบการรั่วไหลของท่อลมว่าคืออะไรและทำไมต้องให้ความสำคัญ
การทดสอบท่อลมคืออะไร
การทดสอบรอยรั่วของท่อลม (Duct Leakage Test) คือ การตรวจสอบการรั่วไหลของอากาศในระบบท่อลมภายในอาคารหรือโครงสร้างอื่น ๆ โดยการรั่วของอากาศนี้อาจเกิดจากช่องว่างหรือรอยรั่วของท่อดักท์ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการติดตั้งไม่ถูกต้อง หรือระบบปรับอากาศที่ใช้งานมานานจนท่อลมเสื่อมสภาพหรือมีรอยรั่วไหลเกิดขึ้น โดยการทดสอบจะใช้เครื่องมือสร้างแรงดัน (Pressure) เข้าไปในระบบท่อลม และตรวจสอบหาปริมาณลมรั่วว่าอยู่ในเกณฑ์ที่มาตรฐานกำหนดไว้หรือไม่ เพื่อลดปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมานั่นเอง
ทำไมต้องทดสอบรอยรั่วของท่อลม
การทดสอบการรั่วไหลของท่อลมเป็นขั้นตอนสำคัญในการตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบท่อลมในอาคาร และเพื่อลดปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา ซึ่งมีเหตุผลที่ต้องทดสอบรอยรั่วของท่อหลายประการ ดังนี้
- เพื่อลดปัญหาอุณหภูมิเย็นไม่พอ หรือไม่มีความเย็นของระบบปรับอากาศภายในอาคาร
- เพื่อลดปัญหาลมขาดหายจากต้นทางไปยังปลายทางจากรอยรั่วของท่อส่งลม หรือลดปัญหาที่ไม่สามารถบาลานซ์ลมในระบบปรับอากาศได้
- เพื่อลดปัญหาการสูญเสียปริมาณลมที่จ่ายมาในอาคาร ทำให้การหมุนเวียนของอากาศเป็นไปตามที่ออกแบบไว้ รวมถึงยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบปรับอากาศอีกด้วย
- เพื่อลดการใช้พลังงานของเครื่องส่งลมเย็นในระบบปรับอากาศ เนื่องจากรอยรั่วของท่อลมจะทำให้สูญเสียปริมาณลมในระบบ จนทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้นหรือใช้พลังงานมากยิ่งขึ้นและส่งผลต่อค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย
- เพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคสำหรับห้องปลอดเชื้อ (Cleanroom) หรือปัญหาความชื้น สิ่งปนเปื้อนอย่างฝุ่นละออง มลพิษ และเชื้อโรคต่าง ๆ ที่รอยรั่วของท่อลมอาจดึงอากาศจากพื้นที่ที่ไม่สามารถควบคุมได้เข้าสู่ระบบปรับอากาศจนเกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานอาคาร
- เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบปรับอากาศ เนื่องจากรอยรั่วของท่อส่งลมอาจทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของระบบเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ดังนั้นการทดสอบท่อลมจะช่วยค้นหารอยรั่วและซ่อมแซมได้ทันท่วงที รวมถึงป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้นั่นเอง
รู้จักกับมาตรฐานการทดสอบท่อลม “SMACNA”
มาตรฐานสำหรับวิธีการทดสอบการรั่วไหลของท่อส่งลมมีอยู่หลากหลาย เช่น มาตรฐาน SMACNA, มาตรฐาน EUROVENT 2/2, มาตรฐาน DW/143 หรือมาตรฐาน ASHARE 90.1 เป็นต้น ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับมาตรฐานระดับสากลอย่าง “SMACNA” กัน
มาตรฐาน SMACNA หรือชื่อเต็มคือ The Sheet Metal and Air Conditioning Contractors’ National Association ซึ่งเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการพัฒนาและเผยแพร่มาตรฐานสำหรับงานระบบปรับอากาศ ท่อลม และงานโลหะแผ่น ซึ่งมาตรฐาน SMACNA สำหรับการทดสอบรอยรั่วของท่อลม เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางระดับโลก โดยการกำหนดวิธีการทดสอบ เกณฑ์การวัดผล และค่ารั่วไหลที่ยอมรับได้ สำหรับท่อลมประเภทต่าง ๆ นั่นเอง
วิธีทดสอบการรั่วไหลของท่อลม
วิธีการทดสอบท่อส่งลมตามมาตรฐานของ SMACNA สิ่งแรกที่จะต้องรู้คือลักษณะของท่อลมที่จะใช้ทดสอบว่าอยู่ในคลาสใดของมาตรฐาน SMACNA ซึ่งในแต่ละคลาสจะมีการกำหนดแรงดันที่ใช้ในการทดสอบและการยอมรับการรั่วไหลที่ใช้ในการทดสอบ ดังนี้
ตารางการแบ่งคลาสที่ใช้ในการทดสอบการรั่วไหลของท่อลมตามมาตรฐาน SMACNA
ภาพ : การจำแนกประเภทการรั่วไหลของท่อลม (Duct Leakage Classification)
ภาพ : การยอมรับการรั่วไหลของท่อลม (Allowable Air Leakage)
และอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทดสอบท่อส่งลม คือ เครื่องทดสอบการรั่วของระบบท่อลม มาตรฐาน SMACNA ที่ประกอบไปด้วยอุปกรณ์อย่าง Blower และ Inverter ที่คอยปรับรอบเพื่ออัดลมและแรงดันให้คงที่ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือวัดแรงดันและเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิของลมที่วิ่งผ่าน เพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล รวมไปถึงเครื่องมือวัดอัตราการไหลเพื่อวิเคราะห์หาอัตราการรั่วไหลของท่อส่งลมที่เราทดสอบว่าผ่านหรือไม่ผ่านตามระยะเวลาที่กำหนดไว้อีกด้วย
วิธีทดสอบการรั่วไหลของท่อลมแบบเบื้องต้น
- ระบุส่วนของท่อลมที่ใช้ทดสอบ หรือกำหนดขอบเขตของการทดสอบท่อส่งลม
- เลือกมาตรฐานที่ต้องการทดสอบหรือใช้อ้างอิงในการทดสอบ เพื่อกำหนดระดับแรงอัดอากาศ
- ปิดส่วนหัวและส่วนท้ายหรือหน้าแปลนท่อดักท์ทุก ๆ ด้านที่ต้องการทำการทดสอบรอยรั่วให้ครบ
- เจาะรูเสียบท่อเฟล็กเพื่ออัดลมด้านใดด้านหนึ่งสำหรับปลายท่อดักท์ รวมถึงยึดเซ็นเซอร์วัดแรงดันและวัดอุณหภูมิ เพื่อเชื่อมต่อกับเครื่องทดสอบท่อลม
- ใส่ข้อมูลในเรื่องพื้นที่รอบผิวทั้งหมดที่ต้องการทดสอบท่อลม รวมถึงแรงดันที่ทำการอัดและคลาสท่อที่ต้องการทดสอบและสรุปผล โดยเครื่องมือที่ใช้ทดสอบจะมีฟังก์ชันการวิเคราะห์และสรุปผลสำหรับการทดสอบท่อดักท์โดยให้เลือกตามมาตรฐาน SMACNA ที่ต้องการใช้อ้างอิง
- จากนั้นทำการเปิด Blower และปรับรอบ Inverter ให้ได้แรงดัน (Pressure) ตามที่ตั้งไว้
- เมื่อการทดสอบเสร็จสิ้น เครื่องมือทดสอบจะแจ้งผลให้ทราบทันทีว่าผลของการทดสอบผ่านหรือไม่ผ่าน และเป็นไปตามมาตรฐาน SMACNA หรือไม่นั่นเอง
Q&E INTERNATIONAL บริการทดสอบท่อลมตามมาตรฐาน SMACNA
มั่นใจในระบบปรับอากาศที่ช่วยประหยัดพลังงานและสร้างคุณภาพอากาศที่ดีต่อผู้ใช้งานอาคาร ด้วยบริการทดสอบท่อลมจาก Q&E INTERNATIONAL
Q&E INTERNATIONAL ผู้ให้บริการทดสอบการรั่วไหลของท่อลมตามมาตรฐาน SMACNA โดยทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ โดยการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ทำให้มั่นใจได้ถึงความแม่นยำ น่าเชื่อถือ และได้มาตรฐานสากล เพื่อให้ระบบท่อลมติดตั้งได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานในระบปรับอากาศและระบบระบายอากาศ และช่วยลดการสูญเสียของปริมาณลมในระบบ
โดยการทดสอบของเราดำเนินการตามมาตรฐาน NEBB TAB Firm Certified, NEBB CPT Certified ซึ่งอัตราการรั่วไหลของท่อลมต้องอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดตรงตามมาตรฐาน เช่น มาตรฐาน SMACNA, EUROVENT 2/2, DW/143 และ ASHARE 90.1
ติดต่อเรา Q&E INTERNATIONAL ได้ที่ช่องทาง
Call: 095-748-7312, 081-595-3011
LINE ID: @248hrupy
Facebook: บริษัท คิว แอนด์ อี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
Email: [email protected], [email protected]