รู้หรือไม่ว่าอาคารของคุณได้มีการใช้พลังงานและเสียค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและเชื้อเพลิงไปมากแค่ไหนในแต่ละเดือน ? การใช้พลังงานในอาคารอาจดูเป็นเรื่องที่มองไม่เห็น แต่จริง ๆ แล้วมีผลกระทบอย่างมากต่อค่าใช้จ่ายในอาคารรวมถึงสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งการรู้เท่าทันและตรวจสอบการใช้พลังงานภายในอาคารจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยให้เรารู้ว่ามีส่วนใดบ้างที่ใช้พลังงานเกินความจำเป็น และสามารถปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้
ดังนั้นการตรวจสอบการใช้พลังงาน หรือ Energy Audit จึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการตรวจวัดการใช้พลังงานและบริหารจัดการพลังงานที่ใช้ในอาคารได้อย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นระบบที่ใช้พลังงานไฟฟ้าหรือระบบที่ใช้พลังงานความร้อน ตลอดจนการประเมินการใช้พลังงานในโรงงานอุตสาหกรรม
เสมือนเป็นการตรวจสุขภาพประจำปีของร่างกาย ให้เราได้ทราบว่าอวัยวะส่วนไหนทำงานผิดปกติ หรือมีจุดไหนที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค ดังนั้นการตรวจสอบการใช้พลังงานก็เช่นเดียวกัน เพื่อจะช่วยให้เราทราบว่าระบบต่าง ๆ ภายในอาคารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ มีส่วนไหนที่สิ้นเปลืองพลังงานเกินความจำเป็น และควรปรับปรุงแก้ไขอย่างไรบ้าง เพื่อช่วยให้คุณสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและสร้างความยั่งยืนให้อาคารของคุณได้นั่นเอง
โดยวันนี้ Q&E INTERNATIONAL เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกันว่า Energy Audit หมายถึงอะไร มีขั้นตอนปฏิบัติอย่างไรบ้าง และทำไมถึงควรทำ Energy Audit สำหรับอาคารของคุณกัน
การตรวจสอบการใช้พลังงาน Energy Audit หมายถึงอะไร
Energy Audit คือ การตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้พลังงานภายในอาคาร เพื่อประเมินประสิทธิภาพการใช้พลังงานของระบบหรือเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในอาคารหรือโรงงานทั้งระบบที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและพลังงานความร้อน เช่น ระบบปรับอากาศ ระบบแสงสว่าง ระบบอัดอากาศ ระบบส่งจ่ายไฟฟ้า ระบบไอน้ำ ระบบน้ำมันร้อน หรือเตาอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึ่งการตรวจสอบการใช้พลังงาน (Energy Audit) สามารถทำได้ทั้งอาคาร สถานประกอบการขนาดใหญ่ โรงแรม ห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล และโรงงานอุตสาหกรรม
โดยการทำ Energy Audit มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจวัดการใช้พลังงานและประสิทธิภาพของระบบต่าง ๆ เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในอาคาร ช่วยให้เรารู้ว่ามีจุดไหนในอาคารที่ใช้พลังงานเกินความจำเป็นเพื่อลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน เช่น การใช้ไฟฟ้าที่ไม่เหมาะสม การตั้งค่าเครื่องปรับอากาศที่ไม่ถูกต้อง หรือการใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพต่ำ เมื่อได้ข้อมูลเหล่านี้แล้วผู้บริหารจัดการอาคารสามารถตัดสินใจได้ว่าควรปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงส่วนไหน เพื่อให้การใช้พลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
นอกจากการประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วการตรวจวัดการใช้พลังงานยังช่วยส่งเสริมให้การดำเนินงานในอาคารเป็นไปอย่างยั่งยืน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มความน่าเชื่อถือในการจัดการพลังงานของอาคาร หรือเพื่อใช้ในการกำหนดมาตรการอนุรักษ์พลังงาน และวิเคราะห์วิเคราะห์ผลการประหยัดพลังงานและผลตอบแทนการลงทุนให้คุ้มกับค่าใช้จ่ายนั่นเอง
ทำไมการตรวจสอบการใช้พลังงานในอาคารถึงสำคัญ
การตรวจสอบการใช้พลังงานในอาคาร (Energy Audit) มีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่การบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งในแง่ของการลดค่าใช้จ่ายและการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยการทำ Energy Audit ไม่ได้เป็นเพียงกระบวนการในการวิเคราะห์การใช้พลังงานเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางแผนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น โดยทำให้เราทราบถึงปริมาณการใช้พลังงานของระบบ เครื่องจักรและอุปกรณ์ในอาคาร เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประเมินแนวทางการประหยัดพลังงานและใช้ในการวิเคราะห์ความคุ้มค่าในการลงทุน ทั้งช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานภายในอาคาร การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสนับสนุนการรับรองมาตรฐานพลังงานรวมถึงช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับอาคารและองค์กรอีกด้วย
ประเภทของการตรวจสอบ Energy Audit มีอะไรบ้าง
การตรวจสอบการใช้พลังงาน (Energy Audit) มีการแบ่งระดับการตรวจสอบอยู่ 2 ระดับ เพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และความต้องการของแต่ละอาคาร โดยแบ่งการตรวจสอบ Energy Audit ได้ดังต่อไปนี้คือ
1. การตรวจสอบการใช้พลังงานเบื้องต้น (Preliminary Energy Audit)
การตรวจสอบการใช้พลังงานเบื้องต้น เป็นขั้นตอนการประเมินการใช้พลังงานอย่างง่ายร่วมกับการใช้เครื่องมือตรวจสอบขั้นพื้นฐาน เช่น นาฬิการจับเวลา และเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ เป็นต้น โดยอาศัยหลักการจากเทคนิคที่ควรรู้ (Tips) และตารางสำเร็จรูป (Table) โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือวัดค่าที่ซับซ้อนหรือการวิเคราะห์ข้อมูลที่ละเอียดมากเกินไป เพื่อให้ได้ข้อมูลที่รวดเร็วและสามารถดำเนินการปรับปรุงแก้ไขได้ในทันที เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นภาพรวมของการใช้พลังงานในอาคารโดยไม่ต้องลงทุนสูง สามารถทำได้รวดเร็ว และไม่ต้องใช้ทรัพยากรมากนั่นเอง
2. การตรวจสอบการใช้พลังงานโดยละเอียด (Detailed Energy Audit)
การตรวจสอบการใช้พลังงานโดยละเอียดหรือเชิงลึก เป็นการวิเคราะห์การใช้พลังงานที่มีความซับซ้อนและละเอียดมากขึ้น โดยการใช้เครื่องมือวัดด้านพลังงานร่วมกับการคำนวณและวิเคราะห์ตามหลักวิศวกรรม เพื่อคำนวณหาประสิทธิภาพและปริมาณการสูญเสียพลังงานโดยละเอียด เพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งเหมาะสำหรับอาคารหรือโรงงานที่มีการใช้พลังงานปริมาณมาก หรือมีการลงทุนสูงในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำและใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด เพื่อทำให้สามารถวางแผนการปรับปรุงการใช้พลังงานในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนในระยะยาว
รายการตรวจสอบการใช้พลังงานภายในอาคาร
การทำ Energy Audit ต้องมีรายการตรวจสอบที่ครอบคลุมและละเอียดเพียงพอ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้พลังงานในอาคาร โดยมีรายการตรวจสอบเบื้องต้นสำหรับการตรวจสอบการใช้พลังงานในอาคาร เช่น
- การตรวจสอบระบบแสงสว่าง
- การตรวจสอบระบบปรับอากาศ
- การตรวจสอบระบบทำความเย็น
- การตรวจสอบระบบน้ำร้อนและเครื่องทำน้ำร้อน
- การตรวจสอบอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
- การตรวจสอบการใช้พลังงานของระบบอาคาร
- การตรวจสอบการใช้พลังงานของระบบเครื่องกลและมอเตอร์
- การตรวจสอบพฤติกรรมการใช้พลังงานของผู้ใช้อาคาร
ทั้งนี้รายการตรวจสอบเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทำ Energy Audit เพื่อให้มั่นใจว่าอาคารได้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน สำหรับโรงงานหรืออาคารขนาดใหญ่ที่ต้องการความละเอียดในการตรวจสอบ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบการใช้พลังงานที่มีเครื่องมือและความรู้เฉพาะทางในการวิเคราะห์ข้อมูลและให้คำแนะนำที่เหมาะสม
ขั้นตอนในการตรวจสอบการใช้พลังงาน Energy Audit
การตรวจวัดการใช้พลังงาน Energy Audit โดยทั่วไปสำหรับอาคารหรือโรงงาน ประกอบไปด้วย 6 ขั้นตอนสำคัญที่ใช้ตรวจสอบดังนี้
- การศึกษารวบรวมข้อมูลการใช้พลังงานเบื้องต้น : การบันทึกปริมาณการผลิต ใบเสร็จค่าไฟฟ้า 12 เดือน ใบเสร็จค่าเชื้อเพลิง 12 เดือน หรือรายละเอียดของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่มีการใช้พลังงาน ฯลฯ
- การจำแนกเครื่องจักรและอุปกรณ์ตามประเภทของพลังงาน : การจำแนกประเภทของเครื่องจักรและอุปกรณ์ตามประเภทของพลังงานที่ใช้ เช่น พลังงานไฟฟ้า หรือพลังงานความร้อน เป็นต้น
- การศึกษาการใช้พลังงานแต่ละจุดของกระบวนการผลิต : เพื่อทำการศึกษาการใช้พลังงานของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ในตำแหน่งต่าง ๆ ของกระบวนการผลิตว่าเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ชนิดใดที่มีการใช้พลังงานมากที่สุด
- การกำหนดแผนการตรวจวัด : ทำการตรวจวัดกระบวนการผลิตหรือตัวแปรที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้พลังงานของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์และช่วงเวลาในการตรวจวัด ตัวอย่างเช่น การตรวจวัดการใช้พลังงานของเครื่องทำน้ำเย็น โดยมีตัวแปรสำคัญได้แก่ การตรวจวัดค่ากำลังไฟฟ้าของเครื่องทำน้ำเย็น การตรวจวัดค่ากำลังไฟฟ้าของเครื่องสูบน้ำเย็น อัตราการไหลของน้ำเย็น และอุณหภูมิน้ำเย็นเข้า-ออก เป็นต้น
- การจัดเตรียมเครื่องมือวัดที่จำเป็น : การจัดเตรียมเครื่องมือวัดที่จำเป็นตามการตรวจวัดที่ต้องการตรวจสอบการใช้พลังงาน ตัวอย่างเช่น การตรวจวัดการใช้พลังงานของเครื่องทำน้ำเย็น โดยมีเครื่องมือวัดที่จำเป็นดังนี้ เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องบันทึกอัตราการไหลของน้ำ และ Power Meter/Power Recorder เป็นต้น
- การดำเนินการตรวจวัดจริงและเก็บรวบรวมข้อมูล : ดำเนินการตรวจวัดการใช้พลังงาน รวมทั้งเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบอื่น ๆ เช่น บันทึกการเดินเครื่องจักร (Log Sheet) บันทึกค่าการใช้พลังงานจากมิเตอร์ต่าง ๆ เป็นต้น
ข้อมูลอ้างอิง :
- Just Energy, จาก https://justenergy.com/blog/understanding-energy-audit-what-why-important/#:~:text=Detailed%20energy%20audit%3A%20This%20type,in%20a%20detailed%20technical%20report.
- iEnergy Guru, จาก https://ienergyguru.com/2015/09/วิเคราะห์การใช้พลังงาน/#:~:text=การตรวจประเมินด้านพลังงาน%20(Energy%20Audit)%20คือวิธีการ,ต้นทุนด้านพลังงานในที่สุด
- Geocities, จาก https://www.geocities.ws/sci123th/energy.html
Q&E INTERNATIONAL บริการทดสอบระบบพลังงาน (Energy System Test)
Q&E INTERNATIONAL รับทดสอบระบบพลังงาน (Energy System Test) เพื่อทำการตรวจสอบประสิทธิภาพ การทำงานและความปลอดภัยของระบบพลังงาน โดยขึ้นอยู่กับประเภทของพลังงาน วัตถุประสงค์ และความต้องการใช้งาน และการตรวจสอบการใช้พลังงาน (Energy Audit) สำหรับอาคารและโรงานทุกประเภท
ให้บริการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญในการทดสอบระบบพลังงานที่มากประสบการณ์ พร้อมให้บริการเพื่อการตรวจสอบและทดสอบระบบพลังงานในอาคารต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบเหล่านี้ทำงานได้ตามมาตรฐานและไม่ทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานโดยไม่จำเป็น
รวมถึงบริการตรวจวัดการใช้พลังงานของเครื่องผลิตน้ำเย็น (Chiller) หรือระบบผลิตน้ำเย็น (Chiller Plant) โดยทำการตรวจสอบการใช้พลังงานทางไฟฟ้า และการทำความเย็นภายในอาคาร โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า อาคาร Mixed Used หรือโรงงานต่าง ๆ รวมถึงการนำเสนอแนวทางการปรับลดการใช้พลังงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของเจ้าของอาคาร
ด้วยความเชี่ยวชาญในการทดสอบระบบพลังงานและเทคโนโลยีที่ทันสมัย Q&E INTERNATIONAL พร้อมให้บริการทุกท่านในการทดสอบและปรับปรุงการใช้พลังงานของอาคารให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อความยั่งยืนในอนาคต
สามารถดูรายละเอียดบริการทั้งหมดของ Q&E INTERNATIONAL ได้ที่นี่ !
ติดต่อเรา Q&E INTERNATIONAL ได้ที่ช่องทาง
Call: 095-748-7312, 081-595-3011
LINE ID: @248hrupy
Facebook: บริษัท คิว แอนด์ อี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
Email: [email protected], [email protected]