หากลองจินตนาการว่าคุณกำลังอยู่ในอาคารสูงที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ บันไดหนีไฟจึงเป็นเส้นทางเดียวที่จะนำคุณออกจากสถานการณ์อันตรายที่กำลังเผชิญอยู่ แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากระบบอัดอากาศในบันไดหนีไฟทำงานผิดพลาดจนทำให้ควันไฟแผ่กระจายไปทั่วแล้วทำให้การหนีเอาชีวิตรอดเป็นไปได้ยากขึ้น ดังนั้นการทดสอบพัดลมอัดอากาศ (Pressurized Fan) ในระบบอัดอากาศบันไดหนีไฟจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับอาคาร เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบป้องกันอัคคีภัยสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง
หลักการเบื้องต้นของระบบอัดอากาศบันไดหนีไฟประกอบไปด้วยส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ โถงบันได พัดลมอัดอากาศ ช่องอัดอากาศ และประตูกันไฟ ซึ่งเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของควันไฟและก๊าซพิษเข้าสู่บันไดหนีไฟในกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยใช้หลักการสร้างแรงดันอากาศภายในบันไดหนีไฟให้สูงกว่าพื้นที่อื่น ๆ ของอาคาร เพื่อให้ควันและก๊าซพิษจากไฟไหม้ไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาในบันไดหนีไฟได้
โดยสามารถแบ่งระบบอัดอากาศออกเป็นแบบต่าง ๆ ได้ดังนี้
- ระบบอัดอากาศแบบจุดเดียว (Single Injection Air Pressurized System) หมายถึง ชนิดของระบบควบคุมควันไฟที่มีการอัดอากาศเข้าไปในบันไดหนีไฟหรือโถงลิฟต์ดับเพลิงจากตำแหน่งเดียวหรือจากจุดเดียว
- ระบบอัดอากาศแบบหลายจุด (Multiple Injection Air Pressurized System) หมายถึง ชนิดของระบบควบคุมควันไฟที่มีการอัดอากาศเข้าไปในบันไดหนีไฟหรือโถงลิฟต์ดับเพลิงจากหลายตำแหน่งหรือจากหลายจุด
ความสำคัญของ Pressurized Fan สำหรับบันไดหนีไฟ
พัดลมอัดอากาศบันไดหนีไฟ หรือ Pressurized Fan คือหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของระบบอัดอากาศ (Air Pressurized System) ที่มีการใช้พัดลมอัดอากาศประกอบเข้ากับท่อลมหรือติดตั้งโดยตรงเข้ากับช่องบันไดหนีไฟ เพื่อใช้ส่งลมและสร้างความดันอากาศให้ได้ค่าตามที่กำหนด คือ ค่าความดันแตกต่างสูงสุดที่ 90 Pa (Pascal) และค่าความดันแตกต่างต่ำสุดที่ 38.6 Pa (Pascal) ซึ่งเป็นค่าความแตกต่างของความดันที่สามารถต้านทานไม่ให้ควันไหลเข้ามาในช่องบันไดหนีไฟได้
โดย Pressurized Fan ทำหน้าที่ในการสร้างแรงดันอากาศบวก (Positive Pressure) ภายในช่องบันไดหนีไฟให้สูงกว่าบริเวณอื่นในอาคาร เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้จะไม่ทำให้ควันไฟสามารถไหลผ่านเข้ามาได้ และทำให้ผู้คนสามารถใช้บันไดหนีไฟในการหลบหนีไปยังพื้นที่ปลอดภัยระหว่างเวลาที่ต้องอพยพนั่นเอง
ทำไมการทดสอบ Pressurized Fan จึงจำเป็นต่ออาคาร
การทดสอบ Pressurized Fan ในระบบอัดอากาศสำหรับบันไดหนีไฟเป็นการตรวจสอบให้มั่นใจว่าระบบสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพในสถานการณ์ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นจริง โดยเป็นการทดสอบว่าพัดลมอัดอากาศสามารถสร้างแรงดันอากาศภายในช่องบันไดหนีไฟให้มีค่าตามที่กำหนดเพียงพอในการป้องกันควันไฟจากการแพร่กระจาย รวมถึงตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์ เช่น พัดลมอัดอากาศและระบบควบคุมแรงดันเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีชิ้นส่วนใดเสียหายหรือเกิดผิดพลาดเพื่อลดความเสี่ยงจากการทำงานที่ล้มเหลวในสถานการณ์ฉุกเฉิน อีกทั้งยังเป็นการปฏิบัติตามกฎระเบียบการป้องกันและระงับอัคคีภัยในการรับรองว่าอาคารนั้นได้ปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานที่กำหนดนั่นเอง
การทดสอบ Pressurized Fan ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในอาคารได้อย่างไร
การทดสอบพัดลมอัดอากาศเป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของอาคาร โดยการทดสอบ Pressurized Fan อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบป้องกันอัคคีภัยสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยป้องกันการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินได้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งเป็นการทดสอบเพื่อให้สามารถตรวจพบปัญหาหรือความผิดปกติของระบบอัดอากาศได้ทันท่วงทีเพื่อให้สามารถแก้ไขได้ก่อนที่จะเกิดเหตุไฟไหม้จริง และช่วยให้มั่นใจได้ว่าพัดลมอัดอากาศสามารถทำงานได้ตามมาตรฐานที่กำหนด โดยสามารถสร้างแรงดันอากาศที่เพียงพอและรักษาความดันให้คงที่ได้ตลอดเวลา โดยระยะเวลาในการบำรุงรักษาและการทดสอบการทำงานควรดำเนินการอย่างสม่ำเสมอในทุก ๆ 12 เดือนหรือ 1 ปี
ขั้นตอนและวิธีการทดสอบสมรรถนะของ Pressurized Fan
ขั้นตอนหลักในการทดสอบระบบอัดอากาศ
- วัดแรงผลักเข้าประตูบันไดหนีไฟ (ขณะที่พัดลมไม่ทำงาน) : ทำการวัดแรงผลักเข้าประตูเมื่อพัดลมอัดอากาศไม่ได้ทำงาน โดยทำการดันประตูจากด้านที่มีสลักยึดประมาณ 3 นิ้ว (7.5 cm) เพื่อทำการตรวจสอบว่า Door Closer ฝืดหรือว่ามีปัญหาหรือไม่ด้วยอุปกรณ์วัดแรงผลัก ซึ่งแรงที่เอาชนะการปลดสลักประตูได้ต้องไม่เกิด 67 N
- ทดสอบ Function สั่งการทำงานของพัดลม : ทดสอบการทำงานโดยทดสอบพร้อมระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm) เมื่อระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ทำงานจะสั่งให้พัดลมทำงานอัตโนมัติ และทำการทดสอบการทำงานด้วยการสั่งพัดลมแบบ Manual
- วัดแรงผลักเข้าประตูบันไดหนีไฟขณะที่พัดลมทำงาน : ทำการวัดแรงผลักเข้าประตูเมื่อพัดลมอัดอากาศกำลังทำงาน โดยให้ดันประตูจากด้านที่มีสลักยึดประมาณ 3 นิ้ว (7.5cm) โดยแรงที่ใช้เปิดประตูจนสุดต้องไม่เกิด 133 N เพื่อให้เด็กและผู้หญิงสามารถเปิดประตูสำหรับบันไดหนีไฟด้วยตนเองได้
- วัดความดันแตกต่างระหว่างภายในบันไดหนีไฟกับภายในอาคารขณะปิดประตูทุกบาน : ทำการวัดความดันด้วยด้วยเครื่องมือวัดความดันแตกต่าง โดยความดันแตกต่างที่วัดได้ต้องไม่ต่ำกว่า 38.6 Pa และไม่ควรเกิน 90 Pa ตามกฎหมายกำหนด เพื่อให้แรงผลักที่ใช้เปิดประตูจนสุดไม่เกิน 133 N
*หมายเหตุ : หากความดันเกิน 90 Pa ให้ทำการปรับชุดควบคุม VSD หรือปรับตุ้มถ่วงน้ำหนักของ Pressure Relief Damper
- วัดความดันแตกต่างระหว่างภายในบันไดหนีไฟกับภายในอาคารขณะเปิดประตูบานที่ออกสู่ภายนอก : ทำการเปิดประตูที่ออกสู่ภายนอกและเปิดประตูชั้นที่เราจะทำการอพยพเข้าบันไดหนีไฟค้างไว้ จากนั้นทำการวัดความดันแตกต่างชั้นบนและล่างของประตูบานที่เปิดอพยพ โดยความดันแตกต่างที่ได้จะต้องไม่น้อยกว่า 12.5 Pa ที่ชั้นบนและล่างของประตูที่เปิดอพยพ
- วัดความเร็วลมที่ไหลอออกจากประตูที่เปิดอพยพทีละชั้น : ทำการวัดความเร็วลมที่ไหลออกจากบันไดหนีไฟไปสู่ภายในอาคารโดยเปิดประตูที่ออกสู่ภายนอกค้างไว้ โดยทำการวัดความเร็วผ่านประตูหลายจุดแล้วนำค่ามาเฉลี่ย เช่น วัดตามแนวความกว้างประตู วัดตามแนวความสูงประตู และกำหนดจุดวัดความเร็ว ซึ่งความเร็วจะต้องไม่น้อยกว่า 160 FPM และไม่เกิน 400 FPM
- ทดสอบการทำงานของ Duct Smoke Detector : เมื่อทำการทดสอบแล้วเสร็จให้ใช้ควันเทียม (Cold Smoke) พ่นเข้าทางดูดของพัดลมอัดอากาศเพื่อทดสอบการทำงานของ Duct Smoke Detector และ Function Self Reset ของ Duct Smoke Detector
- ทำรายงานผลการทดสอบ : เมื่อทำการทดสอบแล้วเสร็จให้ทำการหยุดพัดลมอัดอากาศ และนำข้อมูลที่เก็บได้มาทำรายงานการทดสอบระบบอัดอากาศบันไดหนีไฟ
ข้อมูลอ้างอิง : Energy4You. (2022). พื้นฐานการออกแบบระบบอัดอากาศบันไดหนีไฟและโถงลิฟต์ดับเพลิง, จาก https://www.youtube.com/watch?v=x3Qitv-rucw
การตรวจสอบความพร้อมของพัดลมอัดอากาศ (Pressurized Fan)
- ตรวจสอบสภาพของพัดลมอัดอากาศขณะไม่ทำงาน
- ตรวจสอบระบบไฟฟ้าที่จ่ายให้กับพัดลมว่าเป็นระบบไฟฟ้าที่มาจากระบบไฟฟ้าสำรองฉุกเฉินจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยเมื่อตัดไฟฟ้าหลักของอาคาร พัดลมอัดอากาศจะต้องสามารถทำงานได้ตามปกติ
- ตรวจสอบระบบสายไฟฟ้าที่ใช้งานต้องมีอัตราการทนไฟไม่น้อยกว่า 1.5 h
- ตรวจสอบจุดเชื่อมต่อกับระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ และทดสอบการทำงานของพัดลมอัดอากาศโดยกระตุ้นให้ระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ทำงานหรือทำให้เกิดควันที่ชั้นใดชั้นหนึ่ง
- ตรวจสอบการถ่วงสมดุลขณะที่พัดลมทำงานและทิศทางการหมุนของพัดลมอัดอากาศ
- ทำการวัดความเร็วของพัดลม
ข้อมูลอ้างอิง : สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กระทรวงอุตสาหกรรม). (2555). ข้อกำหนดในการป้องกันอัคคีภัย เล่ม 6 : ระบบอัดอากาศเพื่อควบคุมควันไฟ, จาก http://www.fio.co.th/web/tisi_fio/fulltext/TIS2541_6-2555.pdf
มาตรฐานและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องในการทดสอบ Pressurized Fan
การทดสอบพัดลมอัดอากาศในระบบอัดอากาศบันไดหนีไฟนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าระบบอัดอากาศสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ โดยมาตรฐานและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องนั้นมีหลากหลายทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของอาคาร ขนาดของระบบ และกฎหมายของแต่ละประเทศ
สำหรับในประเทศไทยมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับระบบอัดอากาศเพื่อควบคุมควันไฟ ได้แก่ มาตรฐาน มอก. 2541 เล่ม 6 – 2555 ข้อกำหนดในการป้องกันอัคคีภัย เล่ม 6 ระบบอัดอากาศเพื่อควบคุมควันไฟ ซึ่งให้รายละเอียดเกี่ยวกับการออกแบบระบบ การติดตั้ง การทดสอบรวมถึงการบำรุงรักษา
นอกจากนี้ยังมีกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการออกแบบก่อสร้างและดัดแปลงอาคาร รวมถึงระบบป้องกันอัคคีภัย เป็นต้น
โดยมาตรฐานและข้อกำหนดเหล่านี้จะช่วยให้ระบบอัดอากาศในบันไดหนีไฟทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน และช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้พักอาศัยในอาคารได้นั่นเอง
Q&E INTERNATIONAL พร้อมให้บริการตรวจสอบระบบอัดอากาศช่องบันไดหนีไฟครบวงจร
บริการทดสอบระบบอัดอากาศสำหรับช่องบันไดหนีไฟ (Stair Pressurization) โดย Q&E INTERNATIONAL มุ่งเน้นในการให้บริการตรวจสอบการทำงานของระบบอัดอากาศภายในช่องบันไดหนีไฟอย่างครบวงจรด้วยมาตรฐานระดับสากล โดยทีมงานของเราจะทำการตรวจสอบส่วนประกอบของอาคารเบื้องต้นอย่างละเอียด และทดสอบการทำงานของระบบต่าง ๆ ที่ใช้ในการส่งลมและสร้างความดันอากาศ เพื่อให้แน่ใจว่าค่าแรงดันอยู่ในระดับที่เหมาะสมตามข้อกำหนด เพื่อช่วยให้บันไดหนีไฟทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการใช้งานเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ทั้งนี้เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินในอาคารของคุณ
สนใจบริการเพิ่มเติมจาก Q&E INTERNATIONAL คลิก !
ติดต่อเรา Q&E INTERNATIONAL ได้ที่ช่องทาง
Call: 095-748-7312, 081-595-3011
LINE ID: @248hrupy
Facebook: บริษัท คิว แอนด์ อี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
Email: [email protected], [email protected]