เมื่อพูดถึงการควบคุมคุณภาพอากาศหรือความสะอาดในห้องคลีนรูม (Cleanroom) ห้องสะอาด หรือห้องปลอดเชื้อ การเลือกใช้แผ่นกรองอากาศ (Air Filter) ที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้สภาพอากาศภายใน Cleanroom ปราศจากสิ่งปนเปื้อน ฝุ่นละออง เชื้อโรค และอนุภาคขนาดเล็ก นั้นคือแผ่นกรองอากาศที่มีคุณภาพสูงอย่าง HEPA Filter และ ULPA Filter ซึ่ง Air Filter แต่ละประเภทต่างมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในระดับความสะอาดของห้องคลีนรูมที่แตกต่างเช่นเดียวกันนั่นเอง
โดยการเลือกใช้แผ่นกรองอากาศขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของแต่ละอุตสาหกรรม รวมถึงงบประมาณที่มี ซึ่ง HEPA Filter และ ULPA Filter เป็นแผ่นกรองอากาศที่ถูกออกแบบมาเพื่อกรองอนุภาคขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในการรักษาความสะอาดในห้องปลอดเชื้อต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาล ห้องปฏิบัติการ และโรงงานผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
ดังนั้นการเลือกใช้แผ่นกรองที่เหมาะสมกับ Cleanroom ของคุณจึงมีผลโดยตรงต่อคุณภาพอากาศและการทำงานของบุคลากร หรือการใช้อุปกรณ์ในห้องคลีนรูม เพราะฉะนั้นการทำความเข้าใจถึงข้อแตกต่างและคุณสมบัติของ HEPA Filter และ ULPA Filter จึงเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้แผ่นกรองอากาศที่เหมาะสมสำหรับ Cleanroom ของคุณ และในวันนี้เราจะพาทุกคนมาเข้าใจถึงความแตกต่างของ Air Filter ทั้งสองชนิด รวมถึงการเลือกใช้แผ่นกรองอากาศแบบไหนให้เหมาะกับห้องคลีนรูม
แผ่นกรองอากาศ HEPA Filter คืออะไร ?
HEPA Filter หรือ High Efficiency Particulate Air Filters คือ แผ่นกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงในการกรองอนุภาคขนาดเล็กที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 0.3 ไมครอน (µm) และมีประสิทธิภาพในการกรองได้ที่ 99.97% ซึ่งจัดอยู่ใน ISO Class 5-8 โดยแผ่นกรองชนิดนี้เหมาะสำหรับการกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กมาก เช่น ฝุ่นละออง เชื้อรา เกสรดอกไม้ และสารก่อภูมิแพ้ เป็นต้น จึงทำให้ HEPA Filter เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในห้องคลีนรูมทางการแพทย์ อุตสาหกรรมยา และห้องคลีนรูมสำหรับอุตสาหกรรมอื่น ๆ หรือพื้นที่ที่ต้องการควบคุมคุณภาพอากาศให้มีความสะอาดในระดับที่เหมาะสม เช่น ที่พักอาศัยทั่วไป เป็นต้น
แผ่นกรองอากาศ ULPA Filter คืออะไร ?
ULPA Filter หรือ Ultra-Low Penetration Air Filters คือ แผ่นกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า HEPA Filter โดยสามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 0.12 ไมครอน (µm) และมีประสิทธิภาพในการกรองอากาศได้ถึง 99.9995% ซึ่งจัดอยู่ใน ISO Class 1-4 โดยตัวกรองของ ULPA Filter ผลิตจากวัสดุที่คล้ายกันกับตัวกรอง HEPA Filter แต่มีเส้นใยที่มีความหนาแน่นสูงกว่าและมีตาข่ายที่ละเอียดกว่า จึงทำให้ ULPA Filter สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเหมาะสำหรับการใช้งานใน Cleanroom ที่ต้องการความสะอาดสูงสุด เช่น ห้องคลีนรูมอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนที่อาจส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความแตกต่างระหว่าง HEPA Filter vs ULPA Filter
แผ่นกรองอากาศ หรือ Air Filter ทั้งสองชนิดมีความแตกต่างกันในด้านการกรองอนุภาคขนาดเล็ก ความละเอียดในการกรองอนุภาค รวมถึงการนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยมีความแตกต่างระหว่าง HEPA Filter และ ULPA Filter ดังต่อไปนี้ได้แก่
- ขนาดอนุภาคที่กรองได้ : HEPA Filter สามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน เหมาะสำหรับการกรองฝุ่น ละอองเกสร แบคทีเรีย และอนุภาคที่มีขนาดเล็ก เช่น เชื้อราและฝุ่นในอากาศ ส่วน ULPA Filter สามารถกรองอนุภาคได้สูงกว่าโดยสามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง 0.12 ไมครอน เช่น ไวรัส แบคทีเรียขนาดเล็ก และอนุภาคที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เป็นต้น
- ประสิทธิภาพในการกรองอนุภาค : HEPA Filter สามารถกรองอนุภาคได้ในอัตราสูงถึง 99.97% ซึ่งหมายความว่าสามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กได้เกือบทั้งหมดที่ผ่านเข้ามาในระบบกรอง ในขณะเดียวกัน ULPA Filter สามารถกรองอนุภาคได้สูงกว่าโดยสามารถกรองอนุภาคได้ด้วยประสิทธิภาพถึง 99.9995% ดังนั้น ULPA Filter จึงสามารถดักจับอนุภาคที่เล็กมากและละเอียดกว่า HEPA Filter ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การจัดลำดับ ISO Class : HEPA Filter มักใช้ใน Cleanroom ที่ต้องการความสะอาดระดับปานกลางถึงสูง โดยระดับความสะอาดตั้งแต่ ISO Class 5 ถึง ISO Class 8 ส่วน ULPA Filter จะใช้ใน Cleanroom ที่ต้องการควบคุมคุณภาพอากาศในระดับที่สูงมาก โดยที่ความสะอาดระดับสูงสุด ตั้งแต่ ISO Class 1 ถึง ISO Class 4
- การใช้งานในห้องคลีนรูม : การเลือกใช้แผ่นกรองอากาศขึ้นอยู่กับประเภทของอุตสาหกรรมและระดับความสะอาดที่ต้องการในห้องคลีนรูม โดย HEPA Filter เหมาะสำหรับความสะอาดระดับปานกลาง เช่น ห้องคลีนรูมทางการแพทย์ อุตสาหกรรมยา หรืออุตสาหกรรมอาหาร ส่วน ULPA Filter เหมาะสำหรับห้องคลีนรูมที่ต้องการความสะอาดสูง เช่น ห้องคลีนรูมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมการบิน หรือการผลิตเซมิคอนดักเตอร์
- อายุการใช้งานของแผ่นกรองอากาศ : HEPA Filter มักมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าประมาณ 2-3 ปี หากพบว่าแผ่นกรองเริ่มเสื่อมสภาพควรเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อรักษาประสิทธิภาพในการกรอง ส่วน ULPA Filter มีอายุการใช้งานที่สั้นกว่า เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการกรองที่สูงทำให้มีการสะสมของอนุภาคมากขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็วจนอาจเกิดการอุดตัน ดังนั้นมักต้องเปลี่ยนทุก ๆ 1-2 ปี โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีการปนเปื้อนสูงหรือใช้ในห้องคลีนรูมระดับสูง
การเลือกใช้แผ่นกรองอากาศสำหรับห้องคลีนรูม
การเลือกแผ่นกรองอากาศ (Air Filter) มาใช้งานในห้องคลีนรูมจำเป็นจะต้องพิจารณาถึง “ค่าสมรรถนะ (Filters Performance)” จากค่าประสิทธิภาพ ค่าความดันตกคร่อมเริ่มต้นและสุดท้าย ค่าความเร็วลม ค่าอุณหภูมิ ความชื้น ความดันที่สูงสุดที่ทนได้ ค่าความคลาดเคลื่อนของความดัน หรือความเร็วลม โดยข้อมูลเหล่านี้มาจากการทดสอบโดยโรงงานผู้ผลิตแผ่นกรองอากาศ
หรือสามารถเลือกแผ่นกรองอากาศโดยพิจารณาเลือกตามลักษณะการใช้งาน Application หรือความต้องการของผู้ใช้งาน ตามปริมาณลมหรือความเร็วลมที่ออกแบบ หรือความสะอาดของห้องคลีนรูมที่ออกแบบไว้ จากข้อมูลที่กล่าวถึงข้างต้นนั้นคือ HEPA Filter เหมาะสำหรับห้องคลีนรูมในระดับ ISO Class 5-8 และ ULPA Filter เหมาะสำหรับห้องคลีนรูมในระดับ ISO Class 1-4
ทั้งนี้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปรับอากาศและห้องคลีนรูมเพื่อให้ได้คำแนะนำในการเลือกแผ่นกรองอากาศที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานใน Cleanroom ที่เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมและการใช้งานของคุณ
Q&E INTERNATIONAL บริการตรวจสอบรอยรั่วและการติดตั้งแผ่นกรองอากาศ HEPA Filter ในห้องคลีนรูม
“Q&E INTERNATIONAL” ผู้ให้บริการทดสอบห้องคลีนรูม (Cleanroom Testing) ตามมาตรฐาน Cleanroom Performance Testing (CPT) โดยองค์กรที่มีชื่อเสียงอย่าง NEBB พร้อมการตรวจสอบรอยรั่วและการติดตั้งแผ่นกรองอากาศ HEPA Filter ในห้องคลีนรูม เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์แบบของการกรองอากาศทั้งก่อนและหลังการติดตั้งที่ส่งผลโดยตรงต่อผู้ใช้งานคลีนรูม คุณภาพของผลิตภัณฑ์ ความปลอดภัยของกระบวนการผลิต และมาตรฐานที่อุตสาหกรรมแต่ละประเภทต้องการ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าห้องคลีนรูมของคุณจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยตามมาตรฐานสากลในทุกขั้นตอน
แนะนำบทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ :
- ทำไมต้องทดสอบแผ่นกรองอากาศ HEPA Filter ในห้องคลีนรูม
- 9 ขั้นตอนการทดสอบห้องคลีนรูม (CPT) กับ Q&E INTERNATIONAL
- ล้วงลึกเหตุผล ทำไมต้องทดสอบห้องคลีนรูม (Cleanroom Testing) กับ Q&E INTERNATIONAL
ติดต่อเรา Q&E INTERNATIONAL ได้ที่ช่องทาง
Call: 095-748-7312, 081-595-3011
LINE ID: @248hrupy
Facebook: บริษัท คิว แอนด์ อี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
Email: [email protected], [email protected]