02-019-7296 | 081-595-3011 | 095-748-7312

การตรวจวัดคุณภาพอากาศในอาคาร (Indoor Air Quality : IAQ) สำคัญอย่างไร?

การตรวจวัดคุณภาพอากาศในอาคาร (Indoor Air Quality : IAQ) สำคัญอย่างไร?

เพราะทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่ภายในอาคารไม่ว่าจะที่บ้าน ออฟฟิศ โรงเรียน หรืออาคารอื่น ๆ ซึ่งผู้อยู่อาศัยภายในอาคารล้วนแต่ได้รับผลกระทบจาก “มลพิษทางอากาศภายในอาคาร” ที่รายล้อมอยู่รอบตัวเรา โดยที่หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่าอากาศภายในอาคารอาจแฝงไปด้วยฝุ่น สารเคมี หรือเชื้อโรคในระดับที่ส่งผลต่อสุขภาพได้ในระยะยาว 

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการตรวจวัดคุณภาพอากาศในอาคารหรือ Indoor Air Quality (IAQ) จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของอาคารต้องใส่ใจเพื่อประเมินสภาพแวดล้อมภายในอาคารว่ามีความปลอดภัยตามมาตรฐานต่อผู้อยู่อาศัยหรือไม่

และไม่เพียงแต่ด้านสุขภาพเท่านั้น คุณภาพอากาศภายในอาคารยังเป็นเกณฑ์สำคัญของแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนสำหรับอาคารเขียวหรือ Green Building ที่เน้นการออกแบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมให้ผู้ใช้งานอาคารมีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย 

 

Indoor Air Quality (IAQ) คืออะไร

Indoor Air Quality (IAQ) หรือ คุณภาพอากาศภายในอาคาคือ การประเมินคุณภาพอากาศซึ่งพิจารณาจากค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ การเคลื่อนที่ของอากาศ และค่าความเข้มข้นของก๊าซในอากาศให้อยู่ในค่าที่ยอมรับได้ (Acceptable Value) ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานหรือค่าเฉลี่ยของพารามิเตอร์ทางด้านคุณภาพอากาศภายในอาคารที่ผู้อยู่อาศัยจะได้รับโดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ

โดยการตรวจวัด IAQ เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เจ้าของอาคารหรือผู้ดูแลอาคารสามารถประเมินความเสี่ยงจากมลภาวะภายในอาคารได้อย่างแม่นยำ และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาคุณภาพอากาศได้อย่างเหมาะสม เช่น การเติมอากาศ การกรองอากาศ หรือการปรับอัตราหมุนเวียนของอากาศในอาคารให้เหมาะสมนั่นเอง

คลิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่อง : 10 รายการสำคัญ สำหรับ IAQ : การตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในอาคาร

 

ทำไมต้องตรวจวัดคุณภาพอากาศในอาคาร (IAQ)

เพราะอากาศภายในอาคารอาจปนเปื้อนด้วยมลพิษทางอากาศต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยโดยที่เราไม่รู้ตัว ทั้งฝุ่นละออง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) หรือเชื้อโรคและเชื้อราต่าง ๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งเกิดจากแหล่งมลพิษทั้งภายนอกและภายในอาคาร 

การตรวจวัดคุณภาพอากาศ Indoor Air Quality จึงกลายเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยรักษาสภาวะแวดล้อมภายในอาคารให้ดีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้ใช้งานอาคาร ช่วยให้ระบบปรับอากาศทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ จนส่งผลต่อการประหยัดพลังงานในระยะยาว อีกทั้งยังสอดคล้องกับมาตรฐานอาคารเขียว (Green Building) เนื่องจากอาคารที่ใส่ใจในเรื่องคุณภาพอากาศ จะได้รับการประเมินที่ดีตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน พร้อมช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กรในเชิงความยั่งยืนอีกด้วยนั่นเอง

บทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ : 

 

ข้อเสียหากไม่ทำการตรวจวัดคุณภาพอากาศในอาคาร

แม้ภายนอกอาคารจะดูปลอดภัยและสะอาด แต่ภายในอาจแฝงด้วยมลภาวะที่มองไม่เห็น หากไม่มีการตรวจวัดคุณภาพอากาศ (IAQ) อย่างสม่ำเสมอ ก็อาจนำมาซึ่งปัญหาหลายประการที่ส่งผลกระทบต่อทั้งผู้อยู่อาศัยและตัวอาคารโดยตรง เช่น

  • ความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยจากการหายใจและสัมผัสอากาศที่เป็นมลพิษภายในอาคาร
  • สภาพแวดล้อมที่รู้สึกไม่สบายตัว ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานหรือการใช้ชีวิตของผู้คนในอาคาร
  • มลพิษทางอากาศส่งผลเสียต่อโครงสร้างและทรัพย์สินภายในอาคารจากความชื้นหรือเชื้อราที่กระทบต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ จนต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ก่อนเวลาอันควร
  • ความเสี่ยงทางด้านกฎหมายเมื่อไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือมาตรฐาน รวมถึงส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ขององค์กรต่อการละเลยเรื่องคุณภาพอากาศภายในอาคาร และทำให้ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานสำหรับองค์กรที่ต้องการขอรับรองมาตรฐานในระดับสากล 

 

ตารางค่ามาตรฐานในการตรวจสอบคุณภาพอากาศ (IAQ)

การตรวจวัดคุณภาพอากาศในอาคาร (Indoor Air Quality : IAQ) จำเป็นต้องอ้างอิงค่ามาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานสากล เพื่อประเมินว่าระดับของมลพิษทางอากาศและปัจจัยต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยและเหมาะสมต่อสุขภาพหรือไม่ ซึ่งมีมาตรฐานที่แตกต่างกันออกไป เช่น WHO, ASHRAE หรือกรมอนามัย เป็นต้น

โดยมีค่าที่ยอมรับได้ (Acceptable Value) สำหรับพารามิเตอร์ที่สำคัญในการตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ) ซึ่งสามารถนำมาใช้อ้างอิงได้ตามตารางด้านล่างนี้

ตารางค่ามาตรฐานในการตรวจสอบคุณภาพอากาศ (IAQ)

 

ข้อมูลอ้างอิง : – สมาคมวิศวกรรมปรับอากาศแห่งประเทศไทย. การตรวจวัดคุณภาพอากาศในอาคาร, จาก https://www.acat.or.th/download/acat_or_th/journal-14/14%20-%2009.pdf

– กรมอนามัย. ประกาศกรมอนามัย เรื่อง ค่าเฝ้าระวังคุณภาพอากาศภายในอาคารสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๖๕, จาก https://laws.anamai.moph.go.th/th/practices/download/?did=211864&id=99012&reload=

 

อาคารประเภทใดบ้างที่ควรทำการตรวจวัด IAQ

ในปัจจุบันการตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร หรือ IAQ ไม่ได้จำกัดสำหรับอาคารเฉพาะทางหรืออาคารใหญ่ ๆ เท่านั้น แต่มีความจำเป็นต่ออาคารเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะอาคารที่มีคนทำงานหรืออยู่อาศัยรวมกันเป็นจำนวนมาก รวมถึงอาคารที่มีความเสี่ยงต่อการสะสมของมลพิษทางอากาศจากกิจกรรมภายในต่าง ๆ เช่น

  • ออฟฟิศ​ อาคารสำนักงาน
  • อาคารพาณิชย์ หรืออาคารสาธารณะ
  • อาคารที่อยู่อาศัย เช่น บ้าน คอนโดมิเนียม
  • โรงแรมและที่พัก
  • โรงพยาบาล และสถานพยาบาล
  • โรงงานและอาคารอุตสาหกรรม
  • โรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถานศึกษา

 

ความสำคัญของ IAQ สำหรับเจ้าของโครงการอาคารเขียว (Green Building)

ความสำคัญของ IAQ สำหรับเจ้าของโครงการอาคารเขียว (Green Building)

สำหรับเจ้าของโครงการอาคารเขียว (Green Building) การให้ความสำคัญกับคุณภาพอากาศภายในอาคาร(Indoor Air Quality : IAQ) ไม่ได้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเกณฑ์การประเมินและรับรองมาตรฐานเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างอาคารที่ยั่งยืนและส่งมอบคุณค่าที่แท้จริงให้กับผู้ใช้งาน รวมถึงส่งผลต่อด้านภาพลักษณ์ขององค์กรอีกด้วย

ซึ่ง IAQ เป็นหนึ่งในเกณฑ์สำคัญของการรับรองอาคารเขียว เช่น มาตรฐาน LEED หรือมาตรฐาน TREES ซึ่งมีการกำหนดหลักเกณฑ์เรื่องคุณภาพอากาศภายในอาคารที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ การก่อสร้าง และการบริหารจัดการอาคารเพื่อให้มั่นใจว่ามีคุณภาพอากาศที่ดี ทั้งในแง่การระบายอากาศและการตรวจวัดค่าต่าง ๆ เช่น PM2.5, สารระเหย VOCs, ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) หรือค่าความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ (CO₂) ในอากาศ เป็นต้น 

เพราะฉะนั้นเจ้าของโครงการที่มุ่งเน้นพัฒนาด้านอาคารเขียว (Green Building) ไม่ว่าจะเพื่อจุดประสงค์ด้านธุรกิจหรือเพื่อความยั่งยืนในอนาคต การใส่ใจเรื่องคุณภาพอากาศ (IAQ) ไม่ใช่แค่ทางเลือกแต่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้อาคารมีมาตรฐานในระดับสากล สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย และเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

 

บริการตรวจวัดคุณภาพอากาศ (IAQ) โดยทีมงานมืออาชีพจาก Q&E INTERNATIONAL 

บริการตรวจวัดคุณภาพอากาศ (IAQ) โดยทีมงานมืออาชีพจาก Q&E INTERNATIONAL 

หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจวัดคุณภาพอากาศในอาคาร (Indoor Air Quality : IAQ) ที่น่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน และให้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ “Q&E INTERNATIONAL” เราพร้อมให้บริการอย่างครบวงจร ด้วยทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมเฉพาะทาง พร้อมอุปกรณ์วัดคุณภาพอากาศที่ได้มาตรฐานสากล โดยครอบคลุมการทดสอบ IAQ ทั้งหมด 3 ด้านหลัก ได้แก่

  • การทดสอบสภาวะความสบาย (Thermal Comfort Test)
    • อุณหภูมิ (Temperature)
    • ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity)
    • การเคลื่อนที่ของอากาศ (Airflow)

 

  • การทดสอบทางเคมี (Chemical Test)
    • คาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Dioxide : CO₂)
    • คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide : CO)
    • ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde)
    • สารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs)
    • ฝุ่นละอองขนาดเล็ก เช่น PM2.5 / PM10

 

  • การทดสอบทางชีวภาพ (Biological Test)
    • เชื้อแบคทีเรียรวม (Total Bacteria count : TBC)
    • เชื้อรารวม (Total Fungal Count : TFC)

 

เพราะอากาศที่คุณมองไม่เห็น… อาจมีผลต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด เลือกตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality : IAQ) กับ “Q&E INTERNATIONAL” วันนี้ เพื่ออากาศสะอาดและสุขภาพที่ดีของทุกคนในอาคาร

 

ติดต่อเรา Q&E INTERNATIONAL ได้ที่ช่องทาง

Call: 095-748-7312, 081-595-3011

LINE ID: @248hrupy

Facebook: บริษัท คิว แอนด์ อี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 

Email: [email protected], [email protected]

Share :

ข่าวสารที่น่าสนใจ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า