เพราะทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่ภายในอาคารไม่ว่าจะที่บ้าน ออฟฟิศ โรงเรียน หรืออาคารอื่น ๆ ซึ่งผู้อยู่อาศัยภายในอาคารล้วนแต่ได้รับผลกระทบจาก “มลพิษทางอากาศภายในอาคาร” ที่รายล้อมอยู่รอบตัวเรา โดยที่หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่าอากาศภายในอาคารอาจแฝงไปด้วยฝุ่น สารเคมี หรือเชื้อโรคในระดับที่ส่งผลต่อสุขภาพได้ในระยะยาว
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการตรวจวัดคุณภาพอากาศในอาคารหรือ Indoor Air Quality (IAQ) จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของอาคารต้องใส่ใจเพื่อประเมินสภาพแวดล้อมภายในอาคารว่ามีความปลอดภัยตามมาตรฐานต่อผู้อยู่อาศัยหรือไม่
และไม่เพียงแต่ด้านสุขภาพเท่านั้น คุณภาพอากาศภายในอาคารยังเป็นเกณฑ์สำคัญของแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนสำหรับอาคารเขียวหรือ Green Building ที่เน้นการออกแบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมให้ผู้ใช้งานอาคารมีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย
Indoor Air Quality (IAQ) คืออะไร
Indoor Air Quality (IAQ) หรือ คุณภาพอากาศภายในอาคาร คือ การประเมินคุณภาพอากาศซึ่งพิจารณาจากค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ การเคลื่อนที่ของอากาศ และค่าความเข้มข้นของก๊าซในอากาศให้อยู่ในค่าที่ยอมรับได้ (Acceptable Value) ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานหรือค่าเฉลี่ยของพารามิเตอร์ทางด้านคุณภาพอากาศภายในอาคารที่ผู้อยู่อาศัยจะได้รับโดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ
โดยการตรวจวัด IAQ เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เจ้าของอาคารหรือผู้ดูแลอาคารสามารถประเมินความเสี่ยงจากมลภาวะภายในอาคารได้อย่างแม่นยำ และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาคุณภาพอากาศได้อย่างเหมาะสม เช่น การเติมอากาศ การกรองอากาศ หรือการปรับอัตราหมุนเวียนของอากาศในอาคารให้เหมาะสมนั่นเอง
คลิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่อง : 10 รายการสำคัญ สำหรับ IAQ : การตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในอาคาร
ทำไมต้องตรวจวัดคุณภาพอากาศในอาคาร (IAQ)
เพราะอากาศภายในอาคารอาจปนเปื้อนด้วยมลพิษทางอากาศต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยโดยที่เราไม่รู้ตัว ทั้งฝุ่นละออง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) หรือเชื้อโรคและเชื้อราต่าง ๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งเกิดจากแหล่งมลพิษทั้งภายนอกและภายในอาคาร
การตรวจวัดคุณภาพอากาศ Indoor Air Quality จึงกลายเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยรักษาสภาวะแวดล้อมภายในอาคารให้ดีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้ใช้งานอาคาร ช่วยให้ระบบปรับอากาศทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ จนส่งผลต่อการประหยัดพลังงานในระยะยาว อีกทั้งยังสอดคล้องกับมาตรฐานอาคารเขียว (Green Building) เนื่องจากอาคารที่ใส่ใจในเรื่องคุณภาพอากาศ จะได้รับการประเมินที่ดีตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน พร้อมช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กรในเชิงความยั่งยืนอีกด้วยนั่นเอง
บทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ :
ข้อเสียหากไม่ทำการตรวจวัดคุณภาพอากาศในอาคาร
แม้ภายนอกอาคารจะดูปลอดภัยและสะอาด แต่ภายในอาจแฝงด้วยมลภาวะที่มองไม่เห็น หากไม่มีการตรวจวัดคุณภาพอากาศ (IAQ) อย่างสม่ำเสมอ ก็อาจนำมาซึ่งปัญหาหลายประการที่ส่งผลกระทบต่อทั้งผู้อยู่อาศัยและตัวอาคารโดยตรง เช่น
- ความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยจากการหายใจและสัมผัสอากาศที่เป็นมลพิษภายในอาคาร
- สภาพแวดล้อมที่รู้สึกไม่สบายตัว ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานหรือการใช้ชีวิตของผู้คนในอาคาร
- มลพิษทางอากาศส่งผลเสียต่อโครงสร้างและทรัพย์สินภายในอาคารจากความชื้นหรือเชื้อราที่กระทบต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ จนต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ก่อนเวลาอันควร
- ความเสี่ยงทางด้านกฎหมายเมื่อไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือมาตรฐาน รวมถึงส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ขององค์กรต่อการละเลยเรื่องคุณภาพอากาศภายในอาคาร และทำให้ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานสำหรับองค์กรที่ต้องการขอรับรองมาตรฐานในระดับสากล
ตารางค่ามาตรฐานในการตรวจสอบคุณภาพอากาศ (IAQ)
การตรวจวัดคุณภาพอากาศในอาคาร (Indoor Air Quality : IAQ) จำเป็นต้องอ้างอิงค่ามาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานสากล เพื่อประเมินว่าระดับของมลพิษทางอากาศและปัจจัยต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยและเหมาะสมต่อสุขภาพหรือไม่ ซึ่งมีมาตรฐานที่แตกต่างกันออกไป เช่น WHO, ASHRAE หรือกรมอนามัย เป็นต้น
โดยมีค่าที่ยอมรับได้ (Acceptable Value) สำหรับพารามิเตอร์ที่สำคัญในการตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ) ซึ่งสามารถนำมาใช้อ้างอิงได้ตามตารางด้านล่างนี้
ข้อมูลอ้างอิง : – สมาคมวิศวกรรมปรับอากาศแห่งประเทศไทย. การตรวจวัดคุณภาพอากาศในอาคาร, จาก https://www.acat.or.th/download/acat_or_th/journal-14/14%20-%2009.pdf
– กรมอนามัย. ประกาศกรมอนามัย เรื่อง ค่าเฝ้าระวังคุณภาพอากาศภายในอาคารสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๖๕, จาก https://laws.anamai.moph.go.th/th/practices/download/?did=211864&id=99012&reload=
อาคารประเภทใดบ้างที่ควรทำการตรวจวัด IAQ
ในปัจจุบันการตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร หรือ IAQ ไม่ได้จำกัดสำหรับอาคารเฉพาะทางหรืออาคารใหญ่ ๆ เท่านั้น แต่มีความจำเป็นต่ออาคารเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะอาคารที่มีคนทำงานหรืออยู่อาศัยรวมกันเป็นจำนวนมาก รวมถึงอาคารที่มีความเสี่ยงต่อการสะสมของมลพิษทางอากาศจากกิจกรรมภายในต่าง ๆ เช่น
- ออฟฟิศ อาคารสำนักงาน
- อาคารพาณิชย์ หรืออาคารสาธารณะ
- อาคารที่อยู่อาศัย เช่น บ้าน คอนโดมิเนียม
- โรงแรมและที่พัก
- โรงพยาบาล และสถานพยาบาล
- โรงงานและอาคารอุตสาหกรรม
- โรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถานศึกษา
ความสำคัญของ IAQ สำหรับเจ้าของโครงการอาคารเขียว (Green Building)
สำหรับเจ้าของโครงการอาคารเขียว (Green Building) การให้ความสำคัญกับคุณภาพอากาศภายในอาคาร(Indoor Air Quality : IAQ) ไม่ได้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเกณฑ์การประเมินและรับรองมาตรฐานเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างอาคารที่ยั่งยืนและส่งมอบคุณค่าที่แท้จริงให้กับผู้ใช้งาน รวมถึงส่งผลต่อด้านภาพลักษณ์ขององค์กรอีกด้วย
ซึ่ง IAQ เป็นหนึ่งในเกณฑ์สำคัญของการรับรองอาคารเขียว เช่น มาตรฐาน LEED หรือมาตรฐาน TREES ซึ่งมีการกำหนดหลักเกณฑ์เรื่องคุณภาพอากาศภายในอาคารที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ การก่อสร้าง และการบริหารจัดการอาคารเพื่อให้มั่นใจว่ามีคุณภาพอากาศที่ดี ทั้งในแง่การระบายอากาศและการตรวจวัดค่าต่าง ๆ เช่น PM2.5, สารระเหย VOCs, ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) หรือค่าความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ (CO₂) ในอากาศ เป็นต้น
เพราะฉะนั้นเจ้าของโครงการที่มุ่งเน้นพัฒนาด้านอาคารเขียว (Green Building) ไม่ว่าจะเพื่อจุดประสงค์ด้านธุรกิจหรือเพื่อความยั่งยืนในอนาคต การใส่ใจเรื่องคุณภาพอากาศ (IAQ) ไม่ใช่แค่ทางเลือกแต่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้อาคารมีมาตรฐานในระดับสากล สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย และเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย
บริการตรวจวัดคุณภาพอากาศ (IAQ) โดยทีมงานมืออาชีพจาก Q&E INTERNATIONAL
หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจวัดคุณภาพอากาศในอาคาร (Indoor Air Quality : IAQ) ที่น่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน และให้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ “Q&E INTERNATIONAL” เราพร้อมให้บริการอย่างครบวงจร ด้วยทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมเฉพาะทาง พร้อมอุปกรณ์วัดคุณภาพอากาศที่ได้มาตรฐานสากล โดยครอบคลุมการทดสอบ IAQ ทั้งหมด 3 ด้านหลัก ได้แก่
- การทดสอบสภาวะความสบาย (Thermal Comfort Test)
-
- อุณหภูมิ (Temperature)
- ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity)
- การเคลื่อนที่ของอากาศ (Airflow)
- การทดสอบทางเคมี (Chemical Test)
-
- คาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Dioxide : CO₂)
- คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide : CO)
- ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde)
- สารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs)
- ฝุ่นละอองขนาดเล็ก เช่น PM2.5 / PM10
- การทดสอบทางชีวภาพ (Biological Test)
-
- เชื้อแบคทีเรียรวม (Total Bacteria count : TBC)
- เชื้อรารวม (Total Fungal Count : TFC)
เพราะอากาศที่คุณมองไม่เห็น… อาจมีผลต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด เลือกตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality : IAQ) กับ “Q&E INTERNATIONAL” วันนี้ เพื่ออากาศสะอาดและสุขภาพที่ดีของทุกคนในอาคาร
ติดต่อเรา Q&E INTERNATIONAL ได้ที่ช่องทาง
Call: 095-748-7312, 081-595-3011
LINE ID: @248hrupy
Facebook: บริษัท คิว แอนด์ อี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
Email: [email protected], [email protected]